ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2010

อยากให้ช่วยอธิบายเรื่องการลงทุนในหุ้นอย่างง่ายๆให้ฟังหน่อยครับ

สนใจเรื่องการลงทุนในหุ้นครับ มีเงินเก็บอยู่หนึงแสน อยากให้มันงอกเงยมากกว่าฝากธนาคารกินดอก อยากทราบว่ามันแตกต่างกับเล่นหุ้นอย่างไรครับ ช่วยอธิบายและแนะนำทีครับ ขอบคุณครับ คำถามโดยคุณ ปลาทูสองเข่ง ความคิดเห็น 1 คุณจันทร์เย็น ลงทุนในหุ้น = มองหากิจการในตลาดหุ้นที่ดูดี ไว้ใจได้ มีอนาคต ถ้าพบแล้วก็ยื่นเงินไปให้เขายืม "เอาไป ผมให้ยืมนะ ร่วมหุ้นกันนะ ผมไว้ใจเฮียนะ ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันนะ" เล่นหุ้น = แค่พยายามขายหุ้นให้แพงกว่าตอนซื้อ อย่างอื่นไม่สน ซื้อ สวดมนต์ ขาย จบ ความคิดเห็น 2 คุณสมาร์ท อินเวสเทอร์ ใส่เงินเข้าไป -----> ซื้อ, ขาย, เล่น, ลงทุน, Short, Long, ----> ในหุ้น = กำไร, ขาดทุน, เงินปันผล ความคิดเห็น 3 คุณ mibtrex เหมือนเราขึ้นรถไปซื้อลำไยมาจากตลาด(หลักทรัพย์) 10 บาทนะครับ เราคิดไว้ดีแล้วว่า ต่อไปลำไยจะขาดตลาด หรือคนอยากกินลำไยมาก ต่อไปถ้ามันเป็นอย่างที่เราคิด ลำไยราคาจะแพงขึ้น ถ้าเราซื้อมาเยอะ เราขายก็ได้กำไรเยอะ แต่ถ้าเราตกรถ ไปซื้อไม่ทัน ก็อดเอากำไรมาขาย แต่ถึงยังไง เราก็ต้องเสียค่ารถ(ค่าคอม) ตอนไปเอาลำไย แต่ ถ้าไม่มีคนอยากก

หนังสือที่นักลงทุนควรอ่าน

แนะนำโดยคุณ WindReturn Ten Books Every Investor Should Read “The Intelligent Investor ”(1949) by Benjamin Graham เบน จามิน แกรแฮม (บิดาแห่งนักลงทุนแนว VI) แนวคิดของเขาเกี่ยวกับการวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้วางรากฐานให้กับนักลงทุน รุ่นต่อๆ มาซึ่งรวมถึงศิษย์เอกอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ หนังสือเล่มนี้ตีพิมพ์ในปี 1949 อ่านเข้าใจได้ง่ายกว่าหนังสือ “Security Analysis” ที่แกรมแฮมเขียนขึ้นเมื่อปี 1934 หนังสือ Intelligent Investor ไม่ได้สอนวิธีการเลือกหุ้น แต่จะเป็นหลักการพื้นฐานที่นักลงทุนควรมี บัฟเฟตต์ได้ให้คำนิยมไว้ว่า “เป็นหนังสือการลงทุนที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีการเขียน” “Common Stocks and Uncommon Profits”(1958) by Philip Fisher นัก วิเคราะห์ทางการเงินยุคบุกเบิกอีกคนคือ Philip Fisher เป็นผู้มีอิทธิพลอย่างมากต่อทฤษฏีการลงทุนสมัยใหม่ แนวคิดพื้นฐานของการวิเคราะห์หุ้นตั้งอยู่บนแนวโน้มการเจริญเติบโตของธุรกิจ หนังสือเล่มนี้ได้แนะนำนักลงทุนให้วิเคราะห์คุณภาพของบริษัทและความสามารถใน การทำกำไร หลังจากตีพิมพ์ครั้งแรกในทศวรรษ 1950 บทเรียนของฟิชเชอร์ถูกนำมาประยุกต์ใช้อย่างแพร่หลายตลอดช่วงครึ่งศตว

มือใหม่เล่นหุ้น : คำย่อ

เขียนโดย คุณ CCAIS เครื่องหมายเอช (H) เครื่องหมายนี้ย่อมาจาก halt trade ตลาดหลักทรัพย์ติดเครื่องหมายนี้ไว้บนหลักทรัพย์เพื่อแสดงให้ผู้ลงทุนทราบ ว่า หลักทรัพย์ดังกล่าวอยู่ระหว่างถูกห้ามซื้อขายสำหรับช่วงเวลาการซื้อขายรอบ นั้น ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย H แก่หลักทรัพย์ที่ปรากฏว่า มีเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์นั้นในระหว่างเวลา ซื้อขายรอบดังกล่าว และอยู่ระหว่างรอการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดเผยได้ทันที เครื่องหมายเอ็นพี (NP) เครื่อง หมายนี้ย่อมาจาก Notice Pending ตลาดหลักทรัพย์ติดเครื่องหมายนี้ที่หลักทรัพย์เพื่อแสดงให้ผู้ลงทุนทราบว่า ณ เวลาขณะนั้นตลาดหลักทรัพย์กำลังรอคำชี้แจงหรือรายงานข้อมูลเพิ่มเติม จากบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ดังกล่าว หรือกำลังรอการเปิดเผยงบการเงินหรือรายงานอื่นใดที่บริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ดังกล่าวจะต้องรายงานตามเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด เครื่องหมายเอ็นอาร์ (NR) เครื่อง หมายนี้ย่อมาจาก notice received ตลาดหลักทรัพย์จะติด NR ไว้บนหลักทรัพย์ที่เพิ่งถูกถอนเครื่องหมาย NP เพื่อแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบว่าตลาดหลักทรัพย์ได้รับแจ้งข้อมูลข่าวสารหรือ ราย

ขอถามหน่อยนะคะ ถ้าเปิดพอร์ททิ้งไว้แต่ไม่มีคำสั่งซื้อขาย จะมีอายุพอร์ทมั๊ยคะ

ขอถามหน่อยนะคะ ถ้าเปิดพอร์ททิ้งไว้แต่ไม่มีคำสั่งซื้อขาย จะมีอายุพอร์ทมั๊ยคะ หรือจะมีค่าดูแลรักษาพอร์ทเท่าไหร่คะ (เหมือนธนาคาร ถ้าบัญชีไม่เคลื่อนไหวใน 1ปีก็ต้องมีค่าธรรมเนียม) ถ้าสมัครจะต้องมีเงินอยู่ในพอร์ทเริ่มแรกเท่าไหร่คะ จากคุณ : 8omujfu ตอบ โดยปกติบัญชีไม่เคลื่อนไหว ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมนะครับไม่ว่าจะนานแค่ไหน และไม่มีค่าดูแลรักษาพอร์ตด้วยครับ แต่ถ้าไม่มีการสั่งซื้อขายนาน ๆ ทางมาร์ฯ อาจจะปรับลดวงเงินของคุณลงมาก็ได้ครับ ถ้า คาดว่าเปิดบัญชีเอาไว้นาน ๆ ซื้อขายสักหน ให้เปิดบัญชีเงินฝาก (Cash Balnace) ไว้อย่างเดียวพอครับ ถ้าเราไม่ฝากเงินเข้าในบัญชีก็ไม่ปัญหาอะไรครับ

ถ้าเรามีใบหุ้นแล้วต้องการเอาเข้าพอร์ตล่ะทำอย่างไร

ถ้าเรามีใบหุ้นแล้วต้องการเอาเข้าพอร์ตล่ะทำอย่างไร โดย red_devil ถ้า คุณมีพอร์ตและต้องการเอาใบหุ้นมาเข้าพอร์ตเผื่อขาย หรือเพื่อเป็นอะไรก็ตาม สามารถทำได้โดยนำใบหุ้นนั้นเซ็นต์สลักหลังในช่องผู้โอน แล้วนำไปเข้าพอร์ตได้เลยครับคนที่เซ็นต์สลักหลังต้องเป็นคนที่มีชื่อเป็น เจ้าของใบหุ้นนะครับ อย่างเช่นถ้าเพื่อนคุณต้องการเอาใบหุ้นมาฝากในพอร์ตคุณเพื่อขาย ต้องให้เพื่อนคุณเซ็นต์สลักหลังนะครับไม่ใช่คุณเซ็นต์ แล้วก็เอาเข้าพอร์ตชื่อคุณได้ครับ แต่ทางที่ดี ใครก็ตามที่ต้องการเอาใบหุ้นเข้าพอร์ตเพื่อขายหรือทำอะไรก็ตาม ไปเปิดพอร์ตเองเถอะครับ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลังเปิดพอร์ตก็ไม่ยาก เสียค่าธรรมเนียมเพียง 30 บาท วิธีการเปิดบัญชีดูได้ในกระทู้เก่าครับ