ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

คำสอน-BenjaminGraham-ดร.นิเวศน์-เหมวชิรวรากร

เบนจามิน เกรแฮม บิดาของ Value Investment เขียนหนังสือ บทความ และสอนลูกศิษย์เกี่ยวกับการลงทุนมากมาย

ต่อไปนี้คือหลักการสำคัญๆ 10 ข้อ ที่ Value Investor ควรจดจำและพิจารณานำไปปฏิบัติ 

=========================================
ข้อแรก จงเป็นนักลงทุนอย่างเป็นนักเก็งกำไร 
=========================================
โดยคำจำกัดความของนักเก็งกำไรก็คือคนที่แสวงหากำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นโดยไม่ได้คำนึงถึงมูลค่าที่แท้จริงของกิจการ
ส่วนนักลงทุนก็คือคนที่ซื้อหุ้นในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าพื้นฐานของบริษัทและขายเมื่อหุ้นวิ่งขึ้นไปเกินมูลค่าที่แท้จริง




=============================================
ข้อสอง การคำนวณหามูลค่าที่แท้จริงของกิจการ 
=============================================
มีสูตรคือ มูลค่าของหุ้น = EPS (8.5 + 2 X G)

โดย EPS คือกำไรต่อหุ้น
ส่วน G คืออัตราการเจริญเติบโตของกำไรต่อหุ้นต่อปีโดยคิดเฉลี่ยไป 7 – 10 ปีในอนาคต

ตัวอย่างเช่น หุ้น ก. มีกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 2 บาทและเราคาดว่ากำไรต่อหุ้นนี้จะโตปีละ 5% โดยเฉลี่ยตลอด 10 ปีข้างหน้า
มูลค่าของหุ้นจะเท่ากับ 2(8.5 + 2 X 5) หรือเท่ากับ 37 บาท

===============================
ข้อสาม จงรู้ว่ากิจการมีราคาเท่าไร 
===============================
สิ่งนี้ทำได้โดยเอาราคาหุ้นคูณด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดที่มีอยู่หรือที่จะมีเนื่องจากการแปลงสภาพหรือใช้สิทธิของวอแรนต์ พูดง่ายๆ ก็คือถ้าเราจะเป็นเจ้าของกิจการทั้งหมดคนเดียวจะต้องจ่ายเงินซื้อในราคาเท่าไร

=====================================================
ข้อสี่ จงตระหนักว่าเราไม่สามารถคำนวณมูลค่าที่แท้จริง
ได้อย่างแม่นยำ 
=====================================================
เพราะฉะนั้นจะต้องมีการ “เผื่อ” การผิดพลาดหรือจะต้องมี Margin of Safety ในการซื้อหุ้น นั่นก็คือต้องซื้อหุ้นที่มีราคาต่ำกว่ามูลค่าที่คำนวณได้ไม่ต่ำกว่า 20%

======================================
ข้อห้า ต้องกระจายความเสี่ยงในการลงทุน 
======================================
เม็ดเงินที่จะลงทุนในหุ้นควรจะอยู่ระหว่าง 25 ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือควรเป็นพันธบัตรหรือเงินสดขึ้นอยู่กับภาวะตลาดว่าหุ้นมีค่า PE ของตลาดสูงหรือต่ำหรือมีการจ่ายปันผลสูงหรือต่ำเทียบกับอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตร การซื้อหุ้นเองก็ควรซื้อหุ้นกระจายอย่ามีหุ้นที่ “หนักพอร์ต” ควรมีหุ้นอย่างน้อย 30 ตัว (คำสอนข้อนี้จะแตกต่างจากแนวของ วอเร็น บัฟเฟตต์ ที่ถือหุ้นน้อยตัวกว่ามาก)

==================================================
ข้อหก หุ้นที่จ่ายปันผลต่อเนื่องยาวนานจะมีความเสี่ยงต่ำ 
==================================================
คำว่ายาวนานสำหรับเบน เกรแฮม คือ 20 ปีขึ้นไป เขาเห็นว่าการดูแลผู้ถือหุ้นที่ดีที่สุดก็คือการที่บริษัทจ่ายปันผลในอัตราที่เหมาะสมให้กับผู้ถือหุ้น ส่วนบริษัทที่จ่ายปันผลน้อยนั้นนอกจากจะทำให้ผู้ถือหุ้นขาดรายได้จากการลงทุนแล้ว ราคาหุ้นยังมักจะไม่ค่อยวิ่งไปไหน

=====================================
ข้อเจ็ด เมื่อเกิดความสงสัยให้ยึดคุณภาพ 
=====================================
เพราะบริษัทที่มีกำไรดี มีการจ่ายปันผลแน่นอนสม่ำเสมอ มีหนี้น้อย มีค่า PE ที่สมเหตุผลจะปลอดภัยกว่าหุ้นที่มีคุณภาพต่ำ เบนเกรแฮมพูดว่า นักลงทุนจะไม่ผิดพลาดหรือเจ็บตัวหนักจากการซื้อหุ้นคุณภาพดีในราคาที่ยุติธรรม แต่เขาจะเสียหายมากจากการซื้อหุ้นเน่าโดยเฉพาะที่ถูกปั่นทำราคาด้วยวิธีการต่างๆ และบ่อยครั้งอยู่เหมือนกันที่เขาตัดสินใจผิดพลาดโดยการไปซื้อหุ้นของกิจการที่ดีแต่ไปซื้อในช่วงที่ตลาดบูมเป็นกระทิงเปลี่ยวซึ่งทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นไปถึงยอดดอย

=================================
ข้อแปด ระวังตัวเลขข้อมูลจากบริษัท 
=================================
เนื่องจากข้อมูลกำไรของบริษัทและการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคตเป็นสิ่งที่จะทำให้ราคาหุ้นวิ่ง ดังนั้น ข้อมูลเหล่านี้อาจจะถูกตกแต่งให้ดูดีกว่าความเป็นจริง หรือสร้างภาพให้ดีเกินกว่าที่จะเป็นไปได้ ดังนั้นก่อนที่จะลงทุนซื้อหุ้น ควรศึกษาให้ลึกซึ้งเสียก่อนว่าอะไรเป็นอะไร

===============
ข้อเก้า จงอดทน 
===============
เบน เกรแฮม พูดว่า นักลงทุนทุกคนควรเตรียมตัวเตรียมใจในการรับกับภาวะที่ตลาดตกต่ำในบางช่วงเวลาสั้นๆ ปีหรือสองปี ซึ่งเขาอาจจะขาดทุน “เป็นตัวเลข” แต่ถ้าเขาไม่ขายและถือหุ้นต่อไป เขาก็มักจะได้เงินคืน โดยทั่วไปแล้วถ้าถือหุ้นตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป โอกาสได้กำไรในอัตราที่เหมาะสมจะมีสูง

=================================
ข้อสิบ คิดเอง อย่าซื้อขายหุ้นตามแห่ 
=================================
เบนบอกว่ามีเงื่อนไขสองประการในการที่จะประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น ข้อหนึ่งคือคุณจะต้องคิดอย่างถูกต้อง และข้อสองคุณจะต้องคิดเอง อย่าเชื่อคนอื่น คำสอนของเบน เกรแฮม มีมานานแล้ว สานุศิษย์ของเบน เกรแฮม ที่ประสบความสำเร็จสูงต่างก็นำมาประยุกต์ใช้และแนะนำสั่งสอนนักลงทุนรุ่นใหม่ต่อกันมานานจนหลายๆ เรื่องเราคิดว่าเป็นความคิดของคนที่พูด แต่เมื่อศึกษาย้อนกลับไปจะพบว่าพื้นฐานนั้นมาจากหนังสือหรือคำสอนของเบน เกรแฮม ที่อาจจะ “ซึม” เข้าไปอยู่ในความคิดของลูกศิษย์อย่างไม่รู้ตัว

======================================
 
คำสอนสิบข้อนี้เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นใน “คัมภีร์ไบเบิล” 
จากศาสดาที่ชื่อว่า เบน เกรแฮม benjamin-graham 
คำสอนของศาสดา
โลกในมุมมองของ Value Investor
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร

ขอบคุณบทความจาก http://www.sarut-homesite.net/2009/09/%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%B2-%E0%B8%94%E0%B8%A3-%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%A8%E0%B8%99/

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การคำนวณ NAV เฉลี่ย

ถามเรื่องการคำนวณ NAV เฉลี่ยครับ อยากทราบวิธีการคำนวณ NAV เฉลี่ยของ SCBDV ครับ เพราะคิดว่ามันน่าจะเอาไปใช้กับตัวอื่นได้ด้วย คือ ตอนนี้ NAV เฉลี่ยของผมอยู่ที่ 11.6 ครับ มีหน่วยลงทุนทั้งหมด 1122 ครับ ถ้าผมต้องการให้ เหลือสัก 11 นี่ ผมควรจะต้องซื้อเพิ่มเท่าไรอ่ะครับ แบบว่าคำนวณไม่เป็นจิง ๆ นะครับ ^^'

ซื้อหุ้นจากบัญชี cash balance at ato/atc ต้องเหลือเงินเท่าไหร่ในบัญชีครับ (มือใหม่ครับ)

ผมพยายามจะซื้อหุ้นตัวนึงที่ atc (ราคาก่อนตั้งอยู่ที่ 2.06) ขนาดบวกลบคูณหาร ถ้าซื้อหุ้นตัวนี้ที่ราคา 2.06 หรือ 2.08 จะเหลือเงินในบัญชี 2500-3500 บาท ทางโปรแกรมยังปฎิเสธไม่ให้ซื้อเลยครับ บอกว่าวงเงินไม่พอที่จะซื้อ ... เลยอยากถามเพื่อนๆ ครับว่า เวลาตั้งซื้อหุ้นเวลา Ato/atc ควรจะให้เหลือเงินเท่าไหร่ในบัญชีดี ถึงจะซื้อได้ครับ ผมพยายามเปลี่ยนจำนวนหุ้นที่จะซื้อหลายครั้งมาก สรุปวันนี้ซื้อไม่ได้สักตัว T_T คำถามโดย playornot

ถ้าเรามีใบหุ้นแล้วต้องการเอาเข้าพอร์ตล่ะทำอย่างไร

ถ้าเรามีใบหุ้นแล้วต้องการเอาเข้าพอร์ตล่ะทำอย่างไร โดย red_devil ถ้า คุณมีพอร์ตและต้องการเอาใบหุ้นมาเข้าพอร์ตเผื่อขาย หรือเพื่อเป็นอะไรก็ตาม สามารถทำได้โดยนำใบหุ้นนั้นเซ็นต์สลักหลังในช่องผู้โอน แล้วนำไปเข้าพอร์ตได้เลยครับคนที่เซ็นต์สลักหลังต้องเป็นคนที่มีชื่อเป็น เจ้าของใบหุ้นนะครับ อย่างเช่นถ้าเพื่อนคุณต้องการเอาใบหุ้นมาฝากในพอร์ตคุณเพื่อขาย ต้องให้เพื่อนคุณเซ็นต์สลักหลังนะครับไม่ใช่คุณเซ็นต์ แล้วก็เอาเข้าพอร์ตชื่อคุณได้ครับ แต่ทางที่ดี ใครก็ตามที่ต้องการเอาใบหุ้นเข้าพอร์ตเพื่อขายหรือทำอะไรก็ตาม ไปเปิดพอร์ตเองเถอะครับ จะได้ไม่มีปัญหาทีหลังเปิดพอร์ตก็ไม่ยาก เสียค่าธรรมเนียมเพียง 30 บาท วิธีการเปิดบัญชีดูได้ในกระทู้เก่าครับ